ในปัจจุบันหลาย ๆ คนหันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น บางคนก็ใช้ตัวช่วยด้วยการรับประทานอาหารเสริมหรือวิตามิน เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และวิตามินซี เป็นวิตามินบำรุงสุขภาพที่เราจะนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ซึ่งเราสามารถเข้าถึงได้ง่าย เนื่องจากราคาไม่แพง หลาย ๆ คนได้รับวิตามินทั้งจากการรับประทานอาหาร และจากอาหารเสริม จนดูเหมือนว่าอาจจะได้รับเยอะเกินไปในหนึ่งวัน แล้วถ้าหากร่างกายของเรามีการรับประทานวิตามินซีที่มากเกินไป จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง เรามาดูกัน
วิตามินซี คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ?
เป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่าง ๆ ของร่างกาย และยังเป็นสารอาหารที่ได้รับการจัดเอาไว้ว่าเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพต่อร่างกายสูง มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการหวัด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด มีคุณสมบัติในการการสร้างคอลลาเจน กระตุ้นการดูดซึมธาตุเหล็ก ช่วยในการการรักษาบาดแผล บำรุงกระดูก กระดูกอ่อน และฟัน รวมถึงยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพผิวอีกด้วย โดยส่วนมากวิตามินซีจะอยู่ในกลุ่มของอาหารประเภทผักและผลไม้ชนิด พบมากในส้ม สับปะรด มะขาม สตอร์เบอร์รี่ มะเขือเทศ ฝรั่ง มะนาว
รับประทานวิตามินซีมากเกินไป ส่งผลเสียอย่างไร
วิตามินซี เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติละลายน้ำได้ สำหรับเด็กควรได้รับวันละ 35 – 45 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนผู้ใหญ่ควรได้รับวันละ 75 – 90 มิลลิกรัม แต่ถ้าเป็นคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ หรือเป็นโรคหวัดได้ง่าย รวมถึงผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ ควรได้รับในปริมาณที่มากกว่าปกติ หากรับประทานมากก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมมากตามไปด้วย จึงช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและทำให้ผิวพรรณมีความขาวกระจ่างใสเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
แต่ถ้าหากรับประทานติดต่อกันเป็นปริมาณมาก ๆ ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในภาวะร่างกายขาดวิตามินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น
- ท้องร่วง
- ท้องอืด
- เป็นตะคริวที่ท้อง
- วิงเวียนศีรษะ
- อาเจียน
- ปวดท้อง มวนท้อง
- นอนไม่หลับ
ซึ่งการที่เรารับประทานในปริมาณมาก จะทำให้ร่างกายมีธาตุเหล็กเกินขนาด ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ไม่หมดหรือไม่ถูกดูดซึมเลย และวิตามินซีที่ไม่ถูกดูดซึมนี้นี่เองที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดการระคายเคืองและทำให้ไตทำงานหนักในการขับวิตามินซีออกจากร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เกิดนิ่วในไตได้
รับประทานวิตามินซีตอนไหนได้ผลดีที่สุด ?
แนะนำว่าอย่ารับประทานตอนท้องว่าง เนื่องจากร่างกายจะไม่มีตัวนำพาหรือตัวให้ดูดซึม น้ำที่เราดื่มเข้าไปก็จะเข้าไปละลายวิตามินซี และสุดท้ายก็จะถูกขับออกทางปัสสาวะ ถ้าจะให้ดีควรรับประทานพร้อมอาหารหรือหลังอาหารจะดีที่สุด หลังอาหารเช้า 9-10 โมงเช้าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้ดี สาเหตุที่ต้องรับประทานพร้อมหรือหลังมื้ออาหารเพราะว่าอาหารจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ และยังเป็นการป้องกันกระเพาะอาหารระคายเคืองจากกรดของวิตามินซีด้วย แนะนำว่าควรรับประทานร่วมกับอาหารแคลเซียมสูง คอลลาเจน กลูต้าไธโอน และอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อช่วยเสริมสร้างซึ่งกันและกัน รวมไปถึงช่วยในการดูดซึมสารอาหารต่าง ๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย
วิตามินซีมีประโยชน์ต่อสุขภาพก็จริง แต่ถ้าหากเรารับประทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียตามมาก็ได้ ดังนั้นควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะพอดีเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพสูงที่สุด หรือหากเป็นคนที่รับประทานผักผลไม้เป็นประจำอยู่แล้ว การรับประทานวิตามินซีเป็นอาหารเสริมก็อาจจะไม่จำเป็นเท่าไรนัก เพราะในอาหารก็มีวิตามินซีอยู่ด้วย
