ช่วงเวลาที่ผ่านมาจะสังเกตได้ว่าค่าเงินเยนกำลังอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากใครกำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น สถานการณ์นี้นับเป็นโอกาสทองในการแลกเงินเยนเก็บไว้ล่วงหน้า อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของค่าเงินเยนครั้งนี้เป็นการปรับค่าเงินที่อ่อนตัวมากที่สุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2002 วันนี้แอดมินจึงจะพาทุกท่านไปศึกษาและติดตามสถานการณ์ค่าเงินเยนของประเทศญี่ปุ่นกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
เกาะติดสถานการณ์ค่าเงินเยนอ่อนตัว
ปัจจุบันค่าเงินบาทต่อ 100 เยน อยู่ที่ 25.93 บาท ซึ่งนับว่าเป็นช่วงที่เงินเยนอ่อนค่าลงมาต่ำที่สุดในรอบหลายสิบปี แต่อย่างไรก็ดีธนาคารของประเทศญี่ปุ่นยังไม่มีนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน และพยายามคงอัตราดอกเบี้ย เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนท้องถิ่น และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นที่กำลังตกต่ำมาเป็นระยะเวลาหลายปีั จึงเป็นที่น่าสนใจและติดตามว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะแก้ไขสถานการณ์ทางเศรษฐกิจนี้อย่างไร
สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัว
การปรับลดค่าเงินเยนในอัตราที่มากที่สุด เกิดจากปัจจัยสำคัญทางเศรษฐกิจหลายประการ โดยเฉพาะนโยบายทางการเงินที่สวนทางกันระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา กล่าวคือประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซามาเป็นระยะเวลานาน รัฐบาลจึงมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมานานหลายปี หากแต่ผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ทำให้รัฐบาลตัดสินใจใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำมาก อันจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ขณะเดียวกันสหรัฐอเมริกากลับมีนโยบายในการปรับดอกเบี้ยให้สูงขึ้น ผลตอบแทนในการฝากเงินและลงทุนจึงปรับสูงขึ้นไปด้วย ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เร่งขายเงินเยนของญี่ปุ่น และเปลี่ยนไปลงทุนกับสหรัฐแทน นโยบายดังกล่าวนี้จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว
ผลกระทบจากสถานการณ์ค่าเงินเยนอ่อนตัว
สถานการณ์ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนตัวส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ โดยผลกระทบในด้านบวกคือสามารถเพิ่มอัตราการแข่งขันในต่างประเทศของธุรกิจการส่งออกได้ เพราะเมื่อแปลงค่าเงินกลับมาเป็นเงินเยนจะทำให้ผู้ประกอบการมีกำไรสูงขึ้น ทว่าผู้ทำธุรกิจการค้าที่มีฐานการผลิตอยู่ในต่างประเทศจะต้องแบกรับต้นทุนและภาระต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะเงินเยนอ่อนตัว ทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อการส่งออก และอาจต้องประสบปัญหาในระยะยาวอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลกระทบด้านลบในแง่ของการนำเข้าสินค้า เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ประกอบกับยูเครนกำลังอยู่ในภาวะสงคราม ทำให้ต้นทุนในการผลิตพลังงานปรับสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อค่าเงินเยนอ่อนตัวลงก็ยิ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายในการนำเข้าพลังงานมากขึ้นด้วย
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าเงินเยนได้ปรับตัวลง เนื่องจากเหตุผลสำคัญทางเศรษฐกิจ และนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศ อันก่อให้เกิดผลกระทบทั้งด้านบวกและด้านลบ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากมุมมองของนักท่องเที่ยวนับว่าคนไทยกำลังจะได้รับผลประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ดังนั้นหากใครกำลังสนใจเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นหลังจากเปิดประเทศสามารถนำเงินไปแลกล่วงหน้าได้ทันที