หากพูดถึงเครื่องดื่มที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้า เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง “กาแฟ” เพราะเป็นหนึ่งในเมนูที่ทุกคนเลือกดื่มเพื่อเรียกความสดชื่นให้กับร่างกาย เนื่องจากมีสารที่มีชื่อว่าคาเฟอีน เป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายตื่นตัว สดชื่นและเพิ่มความกระปรี้กระเปร่าในระหว่างวัน ซึ่งหลายคนอาจจะคิดว่าการดื่มกาแฟเป็นประจำจะทำให้เสียสุขภาพ แต่ถ้าเรารู้จักการดื่มให้เป็นก็สามารถส่งผลดีต่อสุขภาพเราได้
วิธีดื่มกาแฟให้ได้ประโยชน์

การดื่มกาแฟมากเกินไป อาจรบกวนการนอนหลับในเวลากลางคืน รวมไปถึงการติดคาเฟอีนที่อาจทำให้ปวดหัว มือสั่น และมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ดังนั้นเราควรดื่มกาแฟด้วยวิธีที่ถูกต้องและดื่มในปริมาณที่เหมาะสม เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ดังนี้
- ดื่มให้เหมาะสมกับน้ำหนักตัว
หากร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจส่งผลให้บางคนใจสั่น นอนไม่หลับ หรือส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมได้ ดังนั้นปริมาณกาแฟที่เหมาะสมในแต่ละวันจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งปริมาณที่เหมาะสมคือคาเฟอีน 2.5 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น หากมีน้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับไม่ควรเกิน 125 มิลลิกรัม โดยค่าเฉลี่ยของคาเฟอีนในกาแฟหนึ่งแก้วจะอยู่ที่ประมาณ 95 มิลลิกรัม ดังนั้นจึงไม่ควรดื่มเกินวันละ 1 แก้ว
- หลีกเลี่ยงการใส่น้ำตาลและครีมเทียม
คนส่วนใหญ่มักดื่มกาแฟแล้วอ้วนขึ้น อาจเป็นเพราะน้ำตาลและครีมเทียมที่ใส่เพิ่มมาด้วย หากต้องการใช้ประโยชน์จากคาเฟอีน ควรเลือกดื่มกาแฟดำหรืออเมริกาโน่ เพื่อให้ได้รสชาติและประโยชน์ล้วน ๆ ไม่รวมกับน้ำตาลและครีมเทียมที่ใส่เพิ่มเข้ามา
- ไม่ควรดื่มเร็วเกินไป
คาเฟอีนมีส่วนกระตุ้นฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มักหลั่งออกมาเวลาเกิดความเครียด เพราะฮอร์โมนตัวนี้สัมพันธ์กับความดันโลหิตและระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้นหากดื่มเร็วเกินไปอาจทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลไม่สมดุล ส่งผลกระทบต่อทั้งการนอนหลับและความเครียดที่มากขึ้นอีกด้วย
- ไม่ดื่มกาแฟขณะท้องว่าง
หลายคนอาจเคยสังเกตเห็นว่ากาแฟมักขายคู่กับอาหารอื่น ๆ เช่น คุกกี้ โดนัท ขนมปัง แซนวิช ในมื้อเช้า เพราะการดื่มกาแฟในขณะที่ท้องว่าง อาจเข้าไปเร่งการหลั่งกรดย่อยอาหารในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นการดื่มไปพร้อม ๆ กับอาหารมื้อเช้าสามารถช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้
- ไม่ดื่มจนรบกวนการนอนหลับ
การนอนหลับพักผ่อนอีกหนึ่งปัญหาสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ เพราะการดื่มในปริมาณหรือช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ดื่มในช่วงเวลาค่ำอาจทำให้ฤทธิ์ของคาเฟอีนเข้าไปรบกวนการนอนหลับ ส่งผลให้นอนหลับไม่เพียงพอได้ ดังนั้นจึงควรงดดื่มกาแฟในช่วงหลัง 4-6 โมงเย็นเป็นต้นไป
- ดื่มก่อนออกกำลังกาย
เนื่องจากคาเฟอีน มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบเมตาบอลิซึม ทำให้สามารถเผาผลาญไขมันไปเป็นพลังงานได้มากกว่าปกติ รวมทั้งช่วยสร้างน้ำย่อยที่กระเพาะอาหารและตับอ่อนมากขึ้น จึงเป็นตัวช่วยที่ดีต่อการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนัก โดยเฉพาะการออกกำลังกายรูปแบบ Cardio เช่น แอโรบิก กระโดดเชือก ว่ายน้ำ วิ่ง ฯลฯ ที่ให้อัตราการเต้นหัวใจที่ 60 – 70 % ของอัตราการเต้นหัวใจสูงสุดต่อนาทีซึ่งเป็นอัตราที่ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ดีที่สุด เพราะร่างกายจะดึงพลังงานจากไขมันส่วนเกินมาใช้งาน
- เลือกดื่มกาแฟออร์แกนิค
การเลือกตราสินค้าที่น่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากกระบวนการผลิตกาแฟมีผลต่อประโยชน์และโทษสำหรับผู้ที่ดื่มเข้าไปเช่นกัน ดังนั้นควรเลือกชื่อการค้าที่ปลูกกาแฟแบบออร์แกนิค ปราศจากสารพิษ ยาฆ่าแมลง เพื่อลดการเกิดสารพิษตกค้างจากการดื่มกาแฟ
การดื่มกาแฟที่ถูกวิธีนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ในขณะเดียวกันหากดื่มผิดวิธีก็อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน ทุกคนควรใส่ใจกับวิธีการดื่มที่ถูกต้อง และปรับพฤติกรรมให้มีความเหมาะสมเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา