หลายคนที่กำลังเตรียมตัวกู้ซื้อบ้าน อาจได้รับการเชิญชวนจากธนาคารให้ทำประกัน MRTA คู่กับการขอสินเชื่อ เพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า และช่วยให้การขอสินเชื่อบ้านผ่านง่ายขึ้นด้วย และหลายคนก็ยังมีคำถามถึงความจำเป็นในการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ วันนี้แอดมินนำสาระความรู้เรื่องการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อพ่วงกับการซื้อบ้านมาฝากกัน
ประกัน MRTA คืออะไร

MRTA (Mortgage Reducing Term Assurance) หรือประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ คือ ประกันประเภทหนึ่งที่มีจุดประสงค์อยู่ที่การประกันความเสี่ยงให้กับผู้กู้ในช่วงระยะเวลาที่ต้องผ่อนสินเชื่อ โดยมีข้อแตกต่างจากประกันทั่วไปที่ผู้รับผลประโยชน์จะไม่ใช่คนในครอบครัว ญาติพี่น้องที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อผู้รับประโยชน์หลักจะเป็นธนาคารผู้ปล่อยสินเชื่อให้ หากผู้กู้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร บริษัทที่รับทำประกันก็จะรับผิดชอบในการชำระหนี้ส่วนที่เหลือแทน คนข้างหลังก็จะได้ไม่ต้องรับภาระในการผ่อนชำระหนี้สินต่อ ประกันประเภทนี้จึงมีประโยชน์มากสำหรับหัวหน้าครอบครัวที่มีรายได้น้อย และต้องรับภาระในการขอสินเชื่อเพียงคนเดียว
ลักษณะ ประเภท และเงื่อนไขของประกันสินเชื่อบ้าน

ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้านนี้แบ่งได้ 2 แบบ คือ
- ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบลดหลั่น เป็นรูปแบบการคุ้มครองของประกันที่จะลดลงตามยอดหนี้คงเหลือ ผู้กู้สามารถเลือกระยะเวลาและทุนประกันในการคุ้มครองได้เอง ไม่ว่าจะเป็น 5 ปี, 10 ปี, 15 ปี จนถึง 30 ปี โดยทุนประกันและความคุ้มครองจะลดลงเรื่อยๆ ตามยอดหนี้ที่ลดลงในแต่ละปี
- ประกันคุ้มครองสินเชื่อบ้านแบบคงที่ เป็นรูปแบบการคุ้มครองเต็มวงเงินในทุนประกันตลอดระยะเวลาการคุ้มครอง โดยผู้ขอสินเชื่อสามารถเลือกได้เองว่าจะให้คุ้มครองเต็ม 100% ของวงเงินกู้ได้
ควรทำประกัน MRTA หรือไม่

ความจำเป็นของประกันสินเชื่อบ้าน ในส่วนนี้ไม่ได้บังคับให้ผู้กู้ซื้อบ้านต้องทำสินเชื่อประเภทนี้แต่อย่างใด ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของตัวผู้กู้ แต่สิ่งสำคัญคือผู้กู้ไม่ควรมองข้ามความเสี่ยงต่างๆ ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ควรพิจารณาความเสี่ยงต่างๆ ตามความเป็นจริง ในกรณีที่ตนเองจะไม่สามารถผ่อนบ้านต่อไปได้หากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร แล้วบ้านหลังนี้ยังมีความจำเป็นสำหรับการอยู่อาศัยของสมาชิกครอบครัวหรือไม่ ถ้ายังจำเป็นสำหรับครอบครัวเพราะเป็นที่อยู่อาศัยเดียวก็แสดงว่าคุณมีความเสี่ยงและควรทำประกัน MRTA เพื่อลดความเสี่ยงนั้นๆ แต่หากผู้กู้มีการทำประกันชีวิตอื่นอยู่แล้วก็ให้พิจารณาทุนประกันของประกันชีวิตที่มีอยู่ว่าเพียงพอที่จะใช้ปิดหนี้บ้านทั้งหมดหรือไม่ ถ้าได้ก็ถือว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำประกัน MRTA อีก แต่จะมีข้อแตกต่างคือประกันชีวิตทั่วไปผู้รับประโยชน์นั้นไม่ใช่ธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้โดยตรง แต่ผลประโยชน์จะตกถึงบุคคลในครอบครัวตามรายชื่อที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ การแบ่งผลประโยชน์อาจทำให้เกิดความขัดแย้งได้ อาจไม่เพียงพอต่อการปิดหนี้บ้านได้ ขณะที่ประกัน MRTA นั้นผู้รับผลประโยชน์คือธนาคารโดยตรง ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเงินประกันจะถูกนำมาชำระหนี้บ้านก่อน และผู้มีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ทำประกัน MRTA โดยมีระยะเวลาเอาประกันตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ด้วย
จบไปแล้วสำหรับสาระความรู้เกี่ยวกับประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อบ้าน โดยความจำเป็นของการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อนั้นขึ้นอยู่กับการจัดการความเสี่ยงของแต่ละบุคคล