เรียกได้ว่าอาหารจะดูน่ากินมากขึ้น ส่วนหนึ่งสีสันของอาหารก็ต้องดูน่ากิน ดึงดูดใจให้ความอยากกินอาหารของเรามากขึ้น ปัจจุบันเองก็มีสีผสมอาหารวางขายมากมายตามห้างสรรพสินค้า แต่ก็ยังมีสีผสมอาหารที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ ที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย นอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อเราแล้ว ยังหาได้ง่ายอีกด้วย ไม่รอช้าไปดูกันเลยดีกว่า
สีผสมอาหารที่ได้จากธรรมชาติ มีอะไรบ้าง
1. สีแดง อาหารที่มีสีแดงสด คงดึงดูดสายตาให้อยากลองชิมสักครั้ง เช่น มาการอง เค้กเรดเวลเวท เป็นต้น โดยสีแดงที่นำมาสกัดเป็นสีผสมอาหารและขนมนั้นมักจะได้จากพืชผักผลไม้ในโทนสีแดง เช่น กระเจี๊ยบ บีทรูท สตรอว์เบอรรี่ และทับทิม โดยนำวัตถุดิบเหล่านี้ไปขูดฝอย และบีบเอาน้ำออกมา เว้นแต่กระเจี๊ยบที่จะสกัดสีออกด้วยการต้มในน้ำเดือดเท่านั้น
2. สีเหลืองสดใส ชวนให้เจริญอาหาร มักนำไปสกัดเป็นสีผสมอาหารแต่งแต้มทั้งของคาวและของหวาน เช่น ข้าวหมกไก่ แกงเหลือง ขนมตาล สีเหลืองได้มาจากทั้งขมิ้น ฟักทอง ลูกตาลสุก ดอกคำฝอย เป็นต้น
3. สีชมพู อาหารฟีลหวานแหววต้องยกให้สีชมพู ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารวานก็มีสีสันที่ชวนรับประทานได้ เช่น หมี่กะทิ ขนมถ้วยฟู เป็นต้น สีชมพูได้มาจากทั้งเต้าหู้ยี้ ซึ่งจะใช้สีผสมอาหารธรรมชาติโทนเดียวกับสีแดง อย่างดอกเฟื่องฟ้า หรือผลไม้อย่างบีทรูท นำมาผสมในปริมาณที่น้อยกว่าสีแดง เท่านี้ก็จะได้สีชมพูแล้ว
4. สีเขียว อาหารสีเขียวสบายตา ให้ความรู้ Healthy สุดๆ สามารถสกัดสีเขียวได้จาก ผักโขม ใบเตย ถั่วพิสตาชิโอ ใบผักชี พริกเขียว ใบมะตูม เป็นต้น ตัวอย่างอาหารที่มีสีเขียวก็อย่างเช่น ซุปผักโขม ขนมชั้น ไอศกรีมพิสตาชิโอ
5. สีส้ม เมนูอาหารสีส้มสุดจี๊ดจ๊าด ให้รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมลงตัว ที่ไม่ได้เพียงสกัดสีผสมอาหารจากแค่ส้มเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอีกสารพัดพืชผลอย่างน้ำแครอท หรือจะเป็นแอปริคอมสีส้มสดใส และอีกวัตถุดิบจากธรรมชาติที่น่าสนใจคือ ชาไทย เพราะว่านอกจากจะได้สีส้มที่เข้มข้นทั้งภาพลักษณ์และรสชาติแล้ว กลิ่นหอมของใบชาไทยอบแห้งยังให้กลิ่นที่เย้ายวนใจจนอดลองชิมไม่ได้
6. สีฟ้า เป็นสีที่ดูเย็นตาเย็นใจ ยิ่งมาอยู่ในจานอาหารแล้วยิ่งดูนุ่มนวล อ่อนละมุน โดยสีผสมอาหารที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่แล้วก็คือดอกไม้สีฟ้าเข้มแกมม่วงอย่างอัญชัญนั่นเอง ซึ่งดอกอัญชัญก็สามารถนำไปรังสรรค์เมนูอาหารได้หลากหลายทั้งคาวทั้งหวาน ไม่ว่าจะเป็นข้าวยำปักษ์ใต้ ขนมชั้นอัญชัญ หรือแม้แต่น้ำอัญชัญมะนาวที่ดื่มแล้วก็ชื่นอกชื่นใจ
7. สีม่วง ชวนสะดุดตา มักพบได้ในเมนูของหวาน ที่ผสมสีจากวัตถุดิบธรรมชาติอย่างเผือกและมันม่วง ซึ่งจะได้คนละเฉดสีกัน หากเป็นสีที่สกัดสีจากเผือกจะได้สีม่วงที่มีความอ่อนละมุนกว่า อย่างเช่น เมนูบัวลอยเผือก ครองแครงเผือก แต่หากสกัดสีจากมันม่วงจะให้สีที่ม่วงเข้ม สด ดูชัดเจน อย่างเมนูตะโก้มันม่วง ไข่นกกระทามันม่วง
รู้จักที่มาของสีผสมอาหารจากวัตถุดิบจากธรรมชาติกันแล้ว ก็ลองเลือกหาใช้ได้ตามความสะดวกได้เลย ลองนำสีที่ได้มาตกแต่งจานอาหารของเราดู เพียงเท่านี้อาหารของเราก็จะมีสีสัน ทำให้เราเจริญอาหารมากขึ้น